งบ65-พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล. ลากวัคซีนเข้าสภาฯ จัดหนักบิ๊กตู่

น่าติดตามไม่น้อย หลังฝ่ายค้านโหมโรงกันมาหลายวัน กับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ที่จะประชุมกัน 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ที่ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ส่งคนในพรรค ออกมาเรียงหน้าถล่ม ร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 อย่างหนักว่า รัฐบาลจัดสรรงบไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ พร้อมกับประกาศล่วงหน้า ฝ่ายค้าน จะลงมติ “ไม่รับหลักการ” ตั้งแต่วาระแรก 

อย่างไรก็ตาม แม้ต่อให้ฝ่ายค้านจะลงมติไม่รับหลักการ แต่ในทางการเมือง เรื่องของเสียงส.ส.ในสภาฯ มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะด้วยจำนวนเสียงส.ส.รัฐบาลที่มากกว่าฝ่ายค้านหลายสิบเสียง ผนวกกับ ส.ส.รัฐบาล แม้ต่อให้พรรคร่วมรัฐบาลอาจมีระหองระแหงกันบ้าง แต่ทั้งหมดก็รู้ดี หากร่างพ.ร.บ.งบฯ ไม่ผ่านสภาฯ นายกรัฐมนตรีต้อง “ยุบสภาฯ” ไปเลือกตั้งกันใหม่ จึงไม่มีทางแน่นอน ที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอยากจะไปเลือกตั้งกันตอนนี้ ดังนั้น ถึงต่อให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ลงมติไม่รับหลักการโดยพร้อมเพรียงกัน ยังไง ร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 ก็ผ่านสภาฯวาระแรกฉลุยอยู่แล้ว 

เพียงแต่ไฮไลท์มันไม่ได้อยู่ที่เสียงโหวต แต่อยู่ที่ทางฝ่ายค้าน จะใช้โอกาส ประชุมสภาฯ สามวันสามคืนรอบนี้ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังมีปัญหาเรื่อง “การรับมือกับโควิดและการบริหารจัดการเรื่องแผนการฉีดวัคซีนให้ประชาชน” ที่ต้องยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันได้ส่งผลต่อคะแนนนิยมที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลค่อนข้างมาก เพราะมันเป็นเรื่องของ “ความเป็นความตายของประชาชนและความเสียหายทางเศรษฐกิจ”     เมื่อพลเอกประยุทธ์ ยังแก้ไม่ได้ ในทางการเมือง มันก็ทำให้ พลเอกประยุทธ์ อยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างลำบาก 

ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายค้าน จึงไม่พลาดที่จะใช้โอกาสทองช่วงอภิปรายงบฯ รอบนี้ “ฟาด-กระหน่ำ-ถลุง-ไล่ต้อน” ไปให้ถึงตัว พลเอกประยุทธ์ และแกนนำรัฐบาลบางคนให้ได้ ผ่านการอภิปรายงบประมาณของบางหน่วยงาน เพื่อกระทบชิ่งไปยังตัวนายกฯและรัฐมนตรีบางคน โดยเน้นการอภิปรายตีไปที่การรับมือกับโควิด-การจัดหาวัคซีน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 

มองดูแล้ว นอกจากพลเอกประยุทธ์ ก็น่าจะยังมีรัฐมนตรีอีกบางคน ที่น่าจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายหนักกลางที่ประชุม 

“การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นน้องๆ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเราไม่ไว้วางใจให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้บริหารงบประมาณอีกต่อไป” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ ของฝ่ายค้านไว้เมื่อ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา 

ในทางการเมือง มีการคาดหมายกันว่า นอกจาก พลเอกประยุทธ์ แล้ว รัฐมนตรีคนอื่น ที่น่าจะโดนหางเลข ฝ่ายค้านจ้องอภิปรายตีกระหน่ำด้วยรอบนี้ ก็น่าจะมีอาทิเช่น  อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข-อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล-สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นต้น 

ซึ่งรูปแบบการอภิปรายของฝ่ายค้าน ส.ส.แต่ละคน จะเกริ่นด้วยการบอกว่า ได้พิจารณางบของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงงบโครงการต่างๆแล้ว หลังจากอ่านวิสัยทัศน์ พันธกิจ  และผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณ ที่แต่ละหน่วยงานตั้งงบไว้แล้ว มีข้อสังเกตและข้อพิจารณาถึงรัฐบาล จากนั้น ฝ่ายค้าน ก็จะไม่รอช้า จะใช้มุมการอภิปรายในเชิงตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ เสนอแนะ ไม่เห็นด้วย กับการตั้งงบดังกล่าว เพื่อดิสเครดิตรัฐมนตรี-รัฐบาล กลางสภาฯ ตามจังหวะหนัก-เบา ที่ฝ่ายค้าน แต่ละคนเตรียมข้อมูลไว้ 

อย่าง พลเอกประยุทธ์ มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะถูกฝ่ายค้านซัดหนักตั้งแต่วันแรกๆ เช่น ฝ่ายค้าน จะใช้จังหวะการอภิปราย “งบกลาง” ที่ตั้งไว้ 571,047 ล้านบาท อันเป็นงบ ที่ให้อำนาจนายกฯ และครม.ในการนำไปใช้จ่ายกรณีเร่งด่วน โดยอภิปรายถึงการใช้งบกลางที่ผ่านมาของนายกฯและรัฐบาลว่า เอาไปทำอะไรบ้าง ทำแล้วได้ผลอะไร จากนั้น ก็วกกลับมาอภิปรายการตั้งงบกลางปีนี้ โดยนำเรื่องปัญหาโควิดฯ มาฟาดตรงไปที่ตัวนายกฯ  

เช่นเดียวกับ “งบกระทรวงสาธารณสุข” ที่ตั้งไว้ 153,940 ล้านบาท คาดกันว่า ฝ่ายค้าน ก็อาจอภิปรายเรื่อง การรับมือกับโควิด รอบสามของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงที่ผ่านมาว่า เป็นอย่างไร  มีช่องโหว่อย่างไร รวมไปถึง อภิปรายเรื่องการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า – การถามหาความชัดเจนเรื่องแผนการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ ในอนาคต หลังจบโควิด เพื่อให้ประเด็นการอภิปราย ทำให้ อนุทิน ต้องลงมาตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน  

และแน่นอนว่า งบประมาณรายจ่ายของอีกหนึ่งกระทรวง ที่ฝ่ายค้านจับจ้องเป็นพิเศษ นั่นก็คือ “งบกระทรวงกลาโหม” ยิ่ง พลเอกประยุทธ์ นั่งควบ รมว.กลาโหมด้วย เลยยิ่ง ถูกฝ่ายค้านจับจ้องมากขึ้นเป็นสองเท่า แม้ที่ผ่านมา งบกลาโหม จะมีการปรับลดงบประมาณลงอย่างต่อเนื่อง อย่างปี 2565 ก็ตั้งไว้ที่ 203,281,969,300 บาท โดยปรับลดจากปี 2564 ที่ตั้งไว้ 214,530,648,400 บาท อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงกลาโหมและกองทัพต่างๆ ยังคงมีการตั้งงบ “ค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างกำลังกองทัพ” เพื่อนำไปสู่การ การจัดหายุทโธปกรณ์หรือการจัดซื้ออาวุธไว้อยู่

ก่อนหน้านี้  “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย” แถลงไว้ว่า งบปี 65 ให้จับตา กองทัพเรือ อาจจะพยายามผลักดันให้มีการจัดซื้อ “เรือดำน้ำใหม่จากประเทศจีน จำนวน 2 ลำ งบฯ 25,000 ล้านบาท” ที่กองทัพเรือ ต้องเลื่อนการจัดซื้อไปเมื่อปีที่แล้ว หลังโดนกระแสคัดค้านอย่างหนัก ซึ่งปีนี้ ฝ่ายค้าน ก็คงใช้ทั้งเวทีอภิปรายกลางสภาฯ ตั้งแต่วาระแรก ไปจนถึง เวทีกรรมาธิการงบประมาณฯ คอยทักท้วง-ขวาง งบกองทัพหลายเรื่อง ทำนอง “ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว แต่รัฐบาล-กองทัพจะเอาแต่ซื้ออาวุธ” ที่น่าจะเป็นประเด็นที่ปลุกขึ้นได้ไม่ยาก และน่าจะทำให้ งบบางรายการที่กระทวงกลาโหมตั้งไว้ สุดท้าย อาจจอดสนิทที่สภาฯ เหมือนปีที่แล้ว ที่เรือดำน้ำจากจีน ไม่ได้มาโผล่ที่เมืองไทย เพราะถูกกรรมาธิการงบขวาง จน ก.กลาโหม-กองทัพเรือ ถอยร่นแทบไม่ทัน 

งบกระทรวงกลาโหม จึงเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ฝ่ายค้าน จ้องจะอภิปรายอยู่ เพื่อโยงไปถึง พลเอกประยุทธ์-รมว.กลาโหม ยิ่งกองทัพยุคนี้ อย่างที่รู้กัน ในทางการเมืองถือว่าไม่กินเส้นกับฝ่ายค้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” ที่คาดว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล คงมีการตรวจสอบและอภิปรายงบกลาโหมอย่างเข้มข้น ตั้งแต่วาระแรกจนถึงวาระสาม 

และพอจบจากอภิปราย-ลงมติ ร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้แล้ว คิวร้อนๆ ต่อไป ที่ตามมาก็คือ การประชุมสภาฯ เพื่อให้ความเห็นชอบ “พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม ในวงเงิน 5 แสนล้านบาท”

โดยแม้พ.ร.ก.ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อ 25 พ.ค. แต่รัฐบาล ยังต้องส่ง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาให้ สภาฯและวุฒิสภา พิจารณาอีกครั้ง อันเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาลเช่นเดียวกับพ.ร.บ.งบฯ คือหากพ.ร.ก.ไม่ผ่านฯ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องยุบสภาฯ แต่ก็เชื่อเถอะ มันก็สูตรเดียวกับ ร่างพ.ร.บ.งบ 65 คือ ยังไง ส.ส.รัฐบาล ก็จะพร้อมใจกันลงมติสนับสนุนท่วมท้นแน่นอน 

เบื้องต้นรัฐบาลต้องการให้สภาฯ รีบเร่งพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินดังกล่าวโดยเร็ว ที่ตามคิว ก็คือจะพิจารณาหลังจากสภาฯพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 วาระแรกเสร็จ ทำให้ พ.ร.ก.กู้เงินฯดังกล่าว อาจเข้าสภาฯ ช่วงสัปดาห์ถัดไป 

คาดหมายกันว่า การอภิปรายเรื่องโควิด-วัคซีน ตอนพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบ 65 ที่ฝ่ายค้านจะซัดนายกฯและรัฐบาลหนักๆ แล้ว แต่ตอนสภาฯ พิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ฝ่ายค้านจะถล่มนายกฯและรัฐบาลหนักยิ่งกว่าตอนพพ.ร.บ.งบ เสียอีก เพราะถือว่า เป็นพ.ร.ก.สำคัญและเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาโควิดและเรื่องวัคซีน เวลานี้ 

ช่วงหลายวันต่อจากนี้ พลเอกประยุทธ์-ศบค. นอกจากต้องรับศึกหนักสู้กับโควิดลุกลามหลายจังหวัดทั่วประเทศแล้ว พลเอกประยุทธ์ ก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้ดี กับการรับศึกกลางสภาฯ ที่ฝ่ายค้านจะลากเรื่องโควิด-วัคซีน มาถล่มบิ๊กตู่-ศบค.หลายวันติด 

เพราะแม้เสียงโหวตในสภาฯ ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่หากนายกฯ-รัฐบาล แจกแจงและโต้กลับฝ่ายค้านได้ไม่ดี เท่าที่ควร ก็อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมรัฐบาลได้เช่นกัน 

แสดงความเห็น