ชิงผู้ว่าฯกทม. ศึกคนกันเอง ทั้งพรรครบ.-ขั้วฝ่ายค้าน

ศึกเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.)ที่รัฐบาลวางโรดแมปไว้ว่า จะไฟเขียวให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คือประมาณเดือน  ตุลาคม-พฤศจิกายน จนถึงตอนนี้ ยังน่าจะยังมีความเป็นไปได้อยู่ เพราะถึงตอนนั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด สถานการณ์โควิดน่าจะดีขึ้น เมื่อคนไทยจำนวนหลายสิบล้านคน มีการฉีดวัคซีนตามแผนงานที่รัฐบาลวางไว้ จนไม่น่าจะเป็นเหตุให้เลื่อนโรดแมปเดิมที่วางไว้ โดยหากทุกอย่างเป็นไปปฏิทินเลือกตั้งที่วางไว้ เท่ากับเหลือเวลาอีก ประมาณไม่เกินหกเดือน ก็จะเข้าสู่ฤดูกาล “ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.” 

จึงไม่แปลกที่จะเริ่มเห็น การขยับตัวมากขึ้นของทั้งคนที่จะลงสมัครชิงผู้ว่าฯกทม.อิสระ ไม่สังกัดพรรค และพรรคการเมืองบางพรรคที่ต้องการจะส่งคนลง ที่มีทั้งส่งในนามพรรคแบบเป็นทางการและไม่ส่งแบบทางการแต่เลือกที่จะสนับสนุนแคนดิเดตบางคนอยู่ข้างหลัง ขณะที่บางคนที่เดิมเคยลังเลอยู่ว่าจะลงดีหรือไม่ ตอนนี้ เริ่มเปิดตัวมากขึ้น คล้ายกับส่งสัญญาณตัดสินใจแล้วว่า จะลงแน่  

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ศึกผู้ว่าฯกทม.กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนอีกครั้งก็จากกรณี “ศึกคนกันเอง” ที่ถูกมองว่า อยู่ฝ่ายขั้วรัฐบาลเวลานี้ด้วยกันทั้งคู่ นั่นคือ “บิ๊กวิน-พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน” ที่ได้ดิบได้ดีจากยุคคสช. กับ “บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา-อดีตผบ.ตร.” รุ่นน้องสีกากี บิ๊กวิน ที่จะลงผู้ว่าฯกทม.อิสระ ภายใต้การหนุนหลังของพรรคพลังประชารัฐ 

เรื่องของเรื่อง เกิดจาก มีการเสียดสีกันทางโซเชียลมีเดีย ของทั้งสองคน ที่เกิดจากกรณี ป้ายไวนิลขนาดใหญ่ที่คลองเตย ในช่วงกทม. มีการนำวัคซีนไปฉีดให้ประชาชนในพื้นที่คลองเตย โดยมีข้อความว่า “สถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการแก้ไขการระบาดเชื้อไวรัสโควิด ชุมชนคลองเตย ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”

และต่อมาวันพุธที่  12 พ.ค.ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเองที่ชื่อ  จักรทิพย์คนทำงาน เป็นภาพโฆษณาแสดงผลงานของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ติดอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมระบุข้อความว่า “เป็นผม ผมไม่ทำ”

จนเกิดควันหลงตามมาในพื้นที่โซเชียลมีเดียของทั้ง พล.ต.อ.อัศวินและพล.ต.อ.จักรทิพย์ 

พอเกิดเหตุ ก็มีกระแสข่าวในแวดวงการเมืองเล่าขานกันว่า ท่าทีดังกล่าว ที่เริ่มจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ น่าจะเป็นเพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ อาจรู้มาแล้วว่า  พล.ต.อ.อัศวิน ติดใจเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.อยากเป็นเบอร์หนึ่ง เสาชิงช้า ต่อไปอีกสี่ปี แถมมีข่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ต้องการได้แรงหนุนจากเครือข่ายรัฐบาล-พลังประชารัฐและตัวพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี หากจะลงผู้ว่าฯกทม. เลยน่าจะทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ฉุนไม่น้อย 

เพราะแน่นอนว่า ใครต่อใคร ก็มองออก หากพล.ต.อ.อัศวิน ลงสมัคร สุดท้าย จะมาตัดคะแนนกันเอง กับพล.ต.อ.จักรทิพย์    

อาการเหวี่ยง ของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็เลยมีให้เห็นดังกล่าว รวมถึง มีข่าวว่า ส.ส.กทม.และบรรดาคนที่จะลงสมัครเป็นส.ก.ในเครือข่าย พลังประชารัฐ ก็ไม่ค่อยแฮปปี้ ท่าทีของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่จะขอลงสมัครผู้ว่าฯกทม. อาจเพราะมองว่า กระแสคนกทม. อยากเปลี่ยนผู้ว่าฯกทม.แล้ว ดังนั้น หากพล.ต.อ.อัศวิน จะลงต่อ อาจมีผลไป ฉุดคะแนน ทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์และพวกที่ลง ส.ก.สายพลังประชารัฐ จนอาจแพ้เลือกตั้งได้ 

จึงเริ่มมีข่าวว่า อาการไม่ยอมรับ พล.ต.อ.อัศวิน ในสายพลังประชารัฐ พร้อมก่อหวอดได้ทุกเมื่อ ยามเมื่อศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มาถึง เพื่อตีกัน พล.ต.อ.อัศวิน ที่หากจะลงผู้ว่าฯกทม.ก็ต้องไม่มาอาศัยเงาของพลังประชารัฐและรัฐบาล ในช่วงเลือกตั้ง 

โดยศึกคนกันเอง ในฝ่ายพรรครัฐบาลต่อสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ไม่ใช่มีแค่กับคู่ของ พล.ต.อ.อัศวินกับพล.ต.อ.จักรทิพย์เท่านั้น 

คาดกันว่า ยามเมื่อ “พรรคประชาธิปัตย์” เปิดตัว คนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ที่คนในพรรคบอกว่ามีแล้ว “2 ชื่อแคนดิเดต” โดยหากประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตแชมป์ผู้ว่าฯกทม.สี่สมัยติดต่อกันก่อนหน้านี้ ในยุคอภิรักษ์ โกษะโยธินและม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส่งคนลง แน่นอนว่า ก็ต้องมีการตัดคะแนนกันเองในบรรดาผู้สมัคร ซีกฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน

เพราะประชาธิปัตย์ ก็มีเดิมพันสูง ต้องการกอบกู้พื้นที่กทม.กลับคืนมาให้ได้ หลังพรรคแพ้ยับเยิน ในการเลือกตั้งใหญ่ส.ส.ปี 2562 ที่ไม่ได้ส.ส.กทม.แม้แต่คนเดียว

ส่วนแคนดิเดตของ ประชาธิปัตย์ จะเป็นชื่อไหน ยังไม่ชัดเจน แม้ก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่า อาจมีชื่อของ “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” ที่เปิดตัวแสดงวิสัยทัศน์การพัฒนากทม.มาร่วมปีแล้ว แต่คนก็มองว่า ดร.สุชัชวีร์  หากเอาจริง ก็น่าจะลงอิสระมากกว่า แต่พลันที่มีชื่อของ ดร.เอ้ ไปร่วมเป็นทีมงานของ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมช.ศึกษาธิการและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ใน “คณะอนุกรรมการ Coding เพื่อการปฏิรูปประเทศ” แวดวงการเมืองเลยมองกันว่า ไม่แน่ ดร.เอ้ อาจลงผู้ว่าฯกทม.ในสีเสื้อประชาธิปัตย์ก็เป็นได้ แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่า กระแสของประชาธิปัตย์ในกทม. ยังไม่กระเตื้อง จนไม่ค่อยมีคนระดับบิ๊กเนม อยากจะลงในค่ายประชาธิปัตย์ ก็ตาม     เลยมีข่าวอีกทางว่า แคนดิเดตของประชาธิปัตย์ สุดท้ายแล้ว อาจไม่ใช่ใครที่ไหน แต่น่าจะเป็นคนในพรรคด้วยกันเอง ที่เต็งหนึ่งตอนนี้คือ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย นั่นเอง 

หากสุดท้าย ประชาธิปัตย์ ส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.และส.ก. ทุกเขต ยังไง ด้วยชื่อชั้น-ฐานเสียงเดิมของพรรคในกทม. ก็ยังทำให้คนของประชาธิปัตย์ ดูแล้ว ก็ยังเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ไม่น้อย สำหรับคู่ต่อสู้ทุกคนทุกพรรค  

ซึ่ง “ศึกคนกันเอง”ในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. ที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นกับ “พรรคร่วมรัฐบาล” เท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นด้วยกับในซีกของพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงอดีตแกนนำฝ่ายค้าน ที่แยกตัวออกไปตั้งพรรคเองอย่าง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย” ก็กำลังจะต้องต่อสู้กันเองเช่นกัน 

โดยแม้ “พรรคเพื่อไทย” จะไม่ส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะจะหนุนหลัง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-อดีตแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย” ลงชิงชัย ด้วยการที่ เพื่อไทย จะส่งสัญญาณให้ส.ส.กทม.และเครือข่าย ส.ก. เพื่อไทย-หัวคะแนนพรรคเพื่อไทยในกทม. ช่วย ชัชชาติ ตอนเลือกตั้ง 

กระนั้น ในขั้วพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเองอย่าง “พรรคก้าวไกล” ก่อนหน้านี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและส.ส.เขต กทม.ของพรรคก้าวไกล  ก็ยืนกรานมาตลอดว่าจะส่งคนลงผู้ว่าฯกทม.แน่นอน เพื่อรักษาฐานเสียง 804,272 คะแนน จากคนกทม. ตอนเลือกตั้งส.ส. ตอนปี 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับ ก่อนที่จะมาเป็นพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีบางชื่อถูกโยนเข้าพื้นที่สื่อ ไม่ว่าจะเป็น “อริยะ พนมยงค์” อดีตผู้บริหารบริษัท Google ประเทศไทย-บริษัท LINE ประเทศไทย บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น 

ต้องไม่ลืมว่า พรรคก้าวไกลที่มีเงาการเมืองทับซ้อนกับ คณะก้าวหน้าของ ธนาธร-ปิยบุตร แสงกนกกุล  ที่เชื่อมโยงถึงม็อบคณะราษฎร ฯ  แนวทางการเมืองของพรรคก้าวไกล มีกลุ่มเป้าหมาย ฐานเสียงทางการเมืองของตัวเองชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยนักศึกษา-คนเริ่มทำงาน  ที่มีจำนวนมากในกทม. และคนกลุ่มนี้ ยังไง ก็ไม่เลือกคนจากฝั่งพลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์แน่นอน    

ด้วยเหตุนี้ เมื่อ พรรคก้าวไกลส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม. รวมถึงส่งคนลงสนาม  ส.ก. ทุกเขต ก็จะทำให้ยังไง ก็ต้องมีการไป “ตัดคะแนน” ของ ชัชชาติ แน่นอน 

แคนดิเดต ฯ ผู้สมัคร ของพรรคก้าวไกล จึงเป็น “ตัวแปร” สำคัญไม่น้อย กับศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ฝ่ายที่ลุ้นหนักว่า ก้าวไกล จะส่งหรือไม่ส่ง และจะส่งใคร คงไม่พ้น “ชัชชาติ-เพื่อไทย” มากเสียยิ่งกว่าฝ่าย พล.ต.อ.จักรทิพย์-พลังประชารัฐ-ประชาธิตย์ เสียอีก 

แถมไม่พอ มีข่าวว่า ตอนนี้ “เจ๊หน่อย-พรรคไทยสร้างไทย” ก็กำลังติดต่อหาคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคไทยสร้างไทย เพื่อใช้โอกาสช่วงเลือกตั้ง ทำให้คนรู้จักพรรคไทยสร้างไทย ให้มากที่สุด รวมถึงคาดหวังระดับหนึ่งกับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น 

“ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ คนของไทยสร้างไทย มีการส่งสัญญาณติดต่อไปยังฝ่าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ และนายชัชชาติ ว่าสนใจจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคไทยสร้างไทยหรือไม่ เพราะอย่าง ชัชชาติ เอง เขาก็รู้จักมักคุ้นกับแกนนำไทยสร้างไทยดีอยู่แล้ว เพราะก็เป็นคนจากเพื่อไทยเดิมด้วยกันทั้งสิ้น เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็รู้มาว่า คนของพรรค เคยมีการส่งสัญญาณทาบทามไปเช่นกัน แต่ทั้งสองคน ก็ส่งสัญญาณกลับมาว่า จะขอลงสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรค ทำให้พรรคก็ต้องมองหาคนอื่นต่อไป ที่ตอนนี้ก็มีชื่ออยู่ในลิสต์ประมาณ 2-3 คน” แหล่งข่าวจากพรรคไทยสร้างไทย ให้ข้อมูล 

เพราะเป็นศึกเลือกตั้งที่มีเดิมพันสูงสำหรับหลายคน หลายพรรค หลังจาก คนกทม.ว่างเว้นจากการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.มาร่วม 8 ปี เลยทำให้ สนามเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.และส.ก. ที่จะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ๆ ปลายปีนี้  แม้จะเหลือเวลาอีกหลายเดือน แต่ก็เห็นเค้าลาง การแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นแต่หัววัน ด้วยประการฉะนี้ 

แสดงความเห็น