DST.Special Report : หลายคนอาจแปลกใจว่า แชมป์ไทยลีกอย่าง “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เลือกจะเซ็นสัญญาแบ็กซ้ายวัย 31 ปี จาก “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี ทีมที่เพิ่งจะตกชั้นด้วยอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน
ทั้งที่ด้วยทุนทรัพย์ระดับเจ้าสัว พวกเขาสามารถทุ่มเงินซื้อพ่อค้าแข้งที่สด-ใหม่ได้
แต่หากมองในแง่ผลงานส่วนตัว ฤดูกาลที่เพิ่งพ้น “เจ้ายอด” ยอดรัก นาเมืองรักษ์ แบ็กซ้ายใหม่แกะกล่อง ยังไม่ถอดป้ายของกระต่ายคลองหลวง ทำวีรกรรมไว้ไม่น้อยหน้ากว่าแบ็กซ้ายคนอื่นๆ ในลีกสูงสุด
โดย “เจ้ายอด” ลงเล่นให้กับระยอง เอฟซีไป 28 นัด ซัดไปถึง 4 ประตู ซึ่งในระดับแบ็กซ้ายถือว่า เป็นผลงานชิ้นเอกอุเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นหลายกรณีแล้วว่า ของดีไม่จำเป็นต้องแพง และของแพงก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป แต่มันอยู่ที่ว่า ใครตาถึงกว่ากัน
ไม่ต้องดูที่ไหนไกล “สันติภาพ จันทร์หง่อม” วิงแบ็กฝั่งขวา ดีกรีทีมชาติไทย ไม่ได้เดินเข้าสู่ลีโอ สเตเดี้ยมด้วยมูลค่ามหาศาล แต่ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ใช้งานเขาเป็น และรีดศักยภาพออกมาจนกลายเป็นแบ็กเบอร์ต้นๆ ของประเทศไปแล้ว
ลายเซ็นของ “ยอดรัก” ก็คงเช่นกัน “โค้ชโอ่ง” คงมองเห็นแล้วว่า นักเตะผู้มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ร้อยเอ็ด สามารถเข้ามาเติมเต็มสำหรับภารกิจอันหนักอึ้งของพวกเขาในฤดูกาลหน้า
อย่าลืมว่า แม้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะอุดมไปด้วยพ่อค้าแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมาตำแหน่งวิงฝั่งซ้าย ไม่มีใครแบ่งเบาภาระ “เจ้าปลื้ม” สหรัฐ ปองสุวรรณ
โดยหลายๆ เกม ต้องจับ “เจ้าเก่ง” สุรชาติ สารีพิมพ์ ศูนย์หน้าจอมเก๋ามาเล่นในตำแหน่งดังกล่าว ขณะที่ “เจ้าแฮ่ม” ศุภศักดิ์ สารภี ดาวรุ่ง ก็ยังต้องการชั่วโมงบิน
การได้ “เจ้ายอด” มาเสริม ทำให้พวกเขามีตัวเลือกใช้งานในตำแหน่งนี้มากขึ้น
อีกทั้ง “เจ้ายอด” ค่อนข้างตอบโจทย์แผนของ “โค้ชโอ่ง” ที่ใช้วิงแบ็กสองข้าง เพราะโดยธรรมชาตินักเตะหมายเลข 39 คนใหม่ของบีจี เป็นประเภทพิศวาสการเติมเกมรุกอยู่แล้ว
นอกจากนี้ “ยอดรัก” ยังเป็นนักเตะที่เตะลูกนิ่งได้ดี ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิก เตะมุม หรือการส่องไกล ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาก็ยิงลูกพ่นไฟให้ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลไปแล้ว
เหนือสิ่งอื่นใด คนที่รู้จัก “ยอดรัก” รองลงมาจากตัวเขาเอง ก็คือ “โค้ชโอ่ง” เพราะทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยอยู่การท่าเรือเอฟซี และศรีสะเกษ เอฟซี
และจริงๆ แล้ว “ยอดรัก” ไม่ใช่นักเตะที่เพิ่งมาเป็นที่รู้จักปีสองปีนี้
หากแต่เขาโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมานานพอสมควร เป็นตัวหลักให้กับทั้งศรีราชา เอฟซี การท่าเรือ เอฟซี ชัยนาท ฮอร์นบิล ลำปาง เอฟซี อ่างทอง เอฟซี และระยอง เอฟซี เพียงแต่เขาร้างลาการอยู่ร่วมกับทีมใหญ่ ทำให้หลายคนอาจหลงลืมเขาไป
การได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่อย่างบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ไทยลีก มันยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า เขาดีพอสำหรับบรรดาทีมบิ๊กเนมหรือไม่
แม้อายุอานามเขาจะเลยเลข 3 แต่อย่ามองข้ามหรือค่อนแคะไป เพราะมีให้เห็นถมเถไปแล้วที่มาพีคเอาตอนอายุเท่านี้.
________________
เรียบเรียบโดย : วนิลาสกาย
แสดงความเห็น
