นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พลังประชารัฐ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฝ่ายกฎหมาย นำรายชื่อ ส.ส. พรรค 110 คน ยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 5 ประเด็นใน 13 มาตรา ประกอบด้วย แก้ระบบเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเปลี่ยนเป็น 2 ใบ เพื่อลดความขัดแย้ง หลังมีการโจมตีว่า พลังประชารัฐจะได้ประโยชน์จากบัตร1 ใบ แต่พรรคต้องการให้ประเทศและกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าไปได้ จึงเสนอแก้ไขดังกล่าว นอกจากนี้ยังเสนอแก้ให้แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. กลับมาเป็น 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 คน เหมือนรัฐธรรมนูญปี2540 และแก้มาตรา144 เกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณ กลับสู่รัฐธรรมนูญปี2550 ไม่ให้ ส.ส. ส.ว. แปรญัตติเข้ากับตัวเอง นอกจากนี้ยังเสนอแก้ มาตรา 270 ปรับอำนาจส.ว. ในการติดตามเรื่องปฏิรูปประเทศ ให้เป็นอำนาจรัฐสภา เพื่อให้ส.ส เข้าไปดำเนินการด้วย รวมถึงแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพ ในกระบวนการยุติธรรม เพิ่ม 8 อนุมาตราเพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชน สิทธิพรรคการเมือง นำมาตรา47 ของรัฐธรรมนูญ2550 มาใช้แทน
“เราแสดงความจริงจัง จริงใจของพรรคพลังประชารัฐที่จะสนับสนุนให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นให้ได้ ขอให้สมาชิกทั้ง ส.ว. และ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านช่วยกันพิจารณาให้เกิดการขับเคลื่อนแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้ จริง หวังเห็นการแก้ไขของเราฉบับที่1 และมี ฉบับที่2 และ 3 ตามมา” นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนเรื่องอำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ ที่ไม่ได้รับการแก้ไขนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า เราไม่เสนอในเรื่องที่จะขัดแย้ง แต่ไม่ได้ห้ามให้มีการยื่นแก้ไขอย่างอื่น แต่อยากแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก่อน และไม่อยากเอาประชาชนเป็นตัวประกัน เรื่องการลดอำนาจ ส.ว. ให้แยกไปดำเนินการ ไม่อยากให้ร่างต้องชักช้า ไม่ได้รับการพิจารณาไปด้วย ทั้งนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐดูแล้ว และเห็นชอบ โดยเฉพาะโหมดสิทธิเสรีภาพ ประชาชน พร้อมย้ำไม่ได้ต้องการเสนอเพื่อเอาใจส.ว. ขณะที่การเสนอแก้ไขมาตรา256 ของฝ่ายค้านกับพรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนหรือไม่นั้น นายไพบูลย์กล่าวว่าต้องขอรอดูรายละเอียดอีกครั้ง
นายไพบูลย์ ยังระบุว่าถ้าเป็นไปได้ในการเปิดประชุมสมัยสามัญ 22 พ.ค. นี้ขอให้ประธานรัฐสภาพิจารณานำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาวันที่ 25 พ.ค.
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ระบุว่าตามขั้นตอนต้องตรวจสอบความถูกต้อง15 วันนับแต่ช่วงที่มีประชุม ซึ่งอาจจะพิจารณาได้ช่วงต้นเดือนมิ.ย.
