Home News กีฬา “เสือ-งู-ม้า-...

“เสือ-งู-ม้า-นก” ชนิดไหนจะได้ “ตั๋วใบสุดท้าย”

DST.Special Report :  ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่สมาคมลูกหนังไทยนำระบบเพลย์ออฟมาใช้กับไทยลีก 2 ทำให้ฤดูกาลนี้การแข่งขันในลีกพระรองเข้มข้นขึ้น

เพราะมันเป็นการเปิดกว้างให้หลายทีมมีลุ้น

จะเห็นว่า แม้หนองบัว พิชญ เอฟซี และเชียงใหม่ ยูไนเต็ด จะโกยแต้มจนเลื่อนชั้นตั้งแต่ยังไม่ปิดฤดูกาล แต่การแข่งขันของบรรดาทีมที่มีลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ ยังสนุกจนถึงนัดสุดท้าย

โดยขณะนี้ การขับเคี่ยวเพื่อชิงตั๋วใบสุดท้าย ใกล้ได้คำตอบขึ้นมาทุกที หลังไทยลีก 2 ได้ 4 ทีม ที่จะมาทำการห้ำหั่นกันเรียบร้อย ประกอบด้วย “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด “ม้าคะนองศึก” แพร่ ยูไนเต็ด และ “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล 

สำหรับโปรแกรมเพลย์ออฟ นัดแรก แพร่ ยูไนเต็ด อันดับ 5 จะเปิดสนามห้วยม้า สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด อันดับ 4 ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ 

ส่วนอีกสนาม ซึ่งเตะในวันเดียวกัน ชัยนาท ฮอร์นบิล อันดับ 6 ได้เล่นในสนามเขาพลอง สเตเดี้ยมก่อน โดยจะพบกับ นครปฐม ยูไนเต็ด อันดับ 3 

ขณะที่นัดที่ 2 จะเตะกันวันที่ 10 เม.ย.ขอนแก่น ยูไนเต็ด จะได้กลับไปเล่นที่สนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น พบกับ แพร่ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับ นครปฐม ยูไนเต็ด จะได้กลับไปเล่นที่สนามโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม 

โดยผู้ชนะของทั้งสองคู่ จะได้เล่นรอบชิงชนะเลิศ พบกันแบบเหย้า-เยือน นัดแรกเตะวันที่ 17 เม.ย. และนัดที่สอง เตะวันที่ 24 เม.ย. ผู้ชนะจะได้ตั๋วสู่ลีกสูงสุด

สำหรับ 4 ทีมในรอบนี้ มี 2 ใน 4 ที่เคยผ่านการเล่นลีกสูงสุด คือ นครปฐม ยูไนเต็ด และชัยนาท ฮอร์นบิล

นครปฐม เคยเล่นลีกสูงสุด เมื่อปี 2550 ก่อนจะตกชั้นในปี 2552 อย่างไรก็ดี ในปี 2553 พวกเขาได้กลับมาเล่นรอบเพลย์ออฟ แต่เกิดเหตุอื้อฉาวแฟนบอลทำร้ายผู้ตัดสิน ทำให้ถูกโทษปรับและห้ามแข่งขันในรายการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปี 

ซ้ำร้ายในปี 2560 ยังถูกปรับให้ไปเล่นไทยลีก 4 หรือ ลีกล่างสุด กระทั่งไต่เต้ากลับมาได้

ขณะที่ ชัยนาท ฮอร์นบิล เคยเล่นไทยลีก 1 ตั้งแต่ปี 2555 ก่อนจะตกชั้นในปี 2559 แต่ร่วงไปแค่ฤดูกาลเดียว ก็สามารถเลื่อนชั้นกลับมาได้ ในฐานะแชมป์ลีกพระรองในปี 2560 

ทว่า การกลับมาครั้งนั้น พวกเขาโลดแล่นได้อยู่เพียง 2 ฤดูกาล ก็ต้องตกชั้นอีกรอบ ซึ่ง “นกใหญ่พิฆาต” หมายมั่นปั้นมือจะทำแบบเดิมอีกครั้ง นั่นคือ การเลื่อนชั้นกลับไปภายในปีเดียว 

ส่วน ขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ แพร่ ยูไนเต็ด 2 ทีมนี้ไม่เคยผ่านสังเวียนบนลีกสูงสุดเลยสักครั้ง ครั้งนี้พวกเขาตั้งใจจะจารึกประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการขึ้นไปสัมผัสโอโซนในลีกบนบ้าง

ทั้งนี้ สำหรับสถิติการเจอกันระหว่างขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ แพร่ ยูไนเต็ด ในลีกปีนี้ แพร่ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่า นัดแรกบุกไปชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 2-1 และนัดที่สองเปิดบ้านชนะ 2-0 

ขณะที่ผลการเจอกันในลีกของ นครปฐม ยูไนเต็ด กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ปรากฏว่า ชัยนาทมีสถิติที่ดีกว่า นัดแรก บุกไปกำราบได้ 2-1 และนัดที่สอง เปิดบ้านยันเสมอ 3-3 

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมาถึงรอบนี้ ถือว่าไม่มีใครกลัวใคร ศักดิ์ศรีเท่ากันหมด อันดับบนตารางคะแนนไร้ความหมาย เพราะผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้เลื่อนชั้น

และแม้หลายคนจะมองว่า นครปฐม ยูไนเต็ด กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เป็นสองทีมตัวเต็งที่โอกาสจะได้แชมป์เพลย์ออฟ เพราะตัวผู้เล่นดูเพียบพร้อมกว่า หากแต่ต้องไม่ลืมว่า การแข่งขันในรอบนี้มันเต็มไปด้วยความกดดัน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด

รวมทั้ง อย่ามองข้าม ชัยนาท ฮอร์นบิล แม้ปีนี้พวกเขาจะไม่โดดเด่น แต่ประสบการณ์การเลื่อนชั้นพวกเขามีมากกว่าทีมอื่น และช่วงเลกสอง “นกใหญ่พิฆาต” แสดงให้เห็นถึงความเก๋าเกมแล้วว่า จากที่หลุดวงโคจรไป สามารถสปีดเข้ามาอยู่พื้นที่เพลย์ออฟแบบม้วนเดียวจบได้

เช่นเดียวกับ แพร่ ยูไนเต็ด ที่ใครหลายคนมองว่า เป็นน้องใหม่ไร้ประสบการณ์ แต่ต้องไม่ลืมอีกเช่นกันว่า ความกระหายในการขึ้นไปเล่นบนลีกบนครั้งแรก พวกเขามีไม่น้อยกว่าใคร

ดังนั้น ถือเป็นกำไรผู้ชม ที่จะได้ดูฟุตบอลมันๆ ไปยันปลายเดือน เม.ย.

_____________

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย

Exit mobile version