พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีกว่าพี่น้องคนไทย โดยเฉพาะทางภาคอีสานต้องประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งปัญหานี้พรรคภูมิใจไทยโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ได้สั่งการให้ระดมความช่วยเหลือด้านต่างๆ ให้ไปถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงที นอกจากจะมีเพื่อนส.ส. และรัฐมนตรีของพรรคฯ ได้ร่วมบริจาคเงินรวม 5.6 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ท่านหัวหน้าพรรคได้กำชับให้ส.ส.ของพรรคเกาะติดพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วย ทั้งนี้ในส่วนงานที่เรารับผิดชอบก็ได้ระดมกำลังช่วยอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยทั้งด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต
นอกจากนี้ยังมีปัญหาในด้านการคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจตรวจสอบความเสียหายไม่ว่าจะเป็นถนนถูกตัดขาด หรือชำรุดเสียหาย ให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพราะเส้นทางสัญจรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำความช่วยเหลือไปสู่พี่น้องประชาชน ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์โดยนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ ก็ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งประสานงานในพื้นประสบภัยน้ำท่วมทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านโชห่วยในการฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากร้านโชห่วยมีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เป็นแหล่งกระจายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันสู่ชุมชน และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง ดังนั้นเมื่อเราช่วยร้านโชห่วยก็เท่ากับช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยไปด้วย
“ที่ผ่านมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริจาคเงินของส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เป็นการสร้างความนิยมทางการเมือง ผมยืนยันแทนเพื่อนส.ส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคนได้เลยว่าสิ่งที่เราทำ ทุกอย่างมาจากความตั้งใจจริงของเราที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย แม้จะถูกโจมตีทางการเมืองก็ตาม แต่ผมอยากให้พี่น้องคนไทยได้เห็นใจซึ่งกันและกัน เมื่อพี่น้องคนไทยถึงคราวลำบากเราในฐานะพรรคการเมืองก็ต้องให้ความช่วยเหลือ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น พรรคการเมืองอื่นก็ร่วมให้ความช่วยเหลือเช่นกัน ผมขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องความจริงใจในการช่วยเหลือประชาชนมาเป็นตัวประกัน โดยนำมาใช้เป็นประเด็นโจมตีกันทางการเมืองเลย” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว