“ผอ.นิติวิทยาศาสตร์” เผยนิติวิทยาศาสตร์ขยายความร่วมมือระดับเอเชีย พัฒนางานคลี่คลายคดีให้เป็นมาตรฐานสากล จ่อยกระดับงานวิชาการสร้างฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงผลการประชุมเครือข่ายนิติวิทยาศาสตร์แห่งเอเชีย (Asian forensic Science network – AFSN) ครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 ผ่านระบบ Video Conference เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ว่า เครือข่ายจัดประชุมกำหนดความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์กับเครือข่ายระหว่างประเทศ ซึ่งมี Dr.Angeline Yap, Health Science Authority ประเทศสิงคโปร์ ฐานะประธานเครือข่ายฯ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีข้อสรุป คือ เตรียมจัดสัมมนาวิชาการของเครือข่าย เผยแพร่ผลงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ในรูปแบบการตีพิมพ์เป็นเอกสารบทความทางวิชาการ และวางบทบาทร่วมกับ The International Forensic Strategic Alliance (IFSA )ฐานะเครือข่ายนิติวิทยาศาสตร์ระดับโลก เพื่อพัฒนาแนวทางการปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ การตรวจสถานที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานทางอิเลคทรอนิกส์ สารพันธุกรรม สารพิษ ลายพิมพ์นิ้วมือ ยาเสพติด ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เป็นต้น
พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ เปิดเผยถึงบทบาทของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ว่า ได้ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย และพัฒนางานของ AFSN ด้วยการเป็นกรรมการบริหารเครือข่าย และเป็นกรรมการบริหาร ใน Workgroup ต่างๆ โดยมีตำแหน่งเป็น Chairman หรือ Vice-Chairman ของ Workgroup ต่างๆ ทำให้สามารถกำหนดนโยบาย และผลักดันการพัฒนาด้านนิติวิทยาศาสตร์ ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงเป็นผู้ริเริ่มและจัดทำแนวทางปฏิบัติด้านการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของภูมิภาคเอเชีย ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั่วทั้งประเทศสมาชิกภูมิภาคเอเชีย จัดทำฐานข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ ด้านระเบิดเอเชีย เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์และวิธีการตรวจพิสูจน์ระเบิด ระหว่างเอเชียร่วมกัน
“ทุกประเทศให้ความสำคัญกับกระบวนการของนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อคลี่คลายคดีและสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นการพัฒนาด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้มีมาตรฐานเดียวกัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และการสร้างเครือข่าย ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการระดมสรรพกำลัง เพื่อสร้างความร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะดำเนินการความร่วมมือกับ Institute of Forensic science สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพัฒนาทางวิชาการระบบฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ต่อไป” ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าว