กมธ.ดีอีเอส ลงพื้นที่ดูงานน่าน หวังพัฒนา “Smart City” ยกระดับแอปพลิเคชันเตือนภัย-ท่องเที่ยว “กัลยา” ชมคนน่านแข็งแกร่งรักท้องถิ่น ชู “น่านโมเดล” เป็นต้นแบบให้ที่อื่น
ที่เทศบาลเมืองน่าน คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานเรื่อง การพัฒนาให้เมืองน่านเป็นเมืองอัจฉริยะ “Smart City” และเมืองสร้างสรรค์ “Creative City” นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ประธานกมธ.ดีอีเอส นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ
น.ส.กัลยา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนคงมีความกังวลว่าหากมีเทคโนโลยีเข้ามาแล้ว ความเป็นอยู่ เอกลักษณ์ของ จ.น่านจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ตนคิดว่าเทคโนโลยีจะเป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาเสริมในเรื่องการใช้ชีวิต แต่วิถีความเป็นอยู่ต่างๆของชาวน่านจะไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่าสิ้นเชิง แต่จะมีเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาเรื่องต่างๆได้ เช่น การแจ้งเตือนภัยพิบัติอย่างกรณีน้ำท่วมหนักที่ผ่านมา หากเรามีเทคโนโลยีในการแจ้งเตือน ก็จะสามารถลดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินได้ เพราะชาวบ้านจะมีการเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที
น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยว น่านเป็นเมืองเก่าที่มีชีวิต การยกระดับจ.น่าน เป็นสมาร์ทซิตี้ มีความทันสมัย หวังเป็น 1 ใน 100 เมือง การท่องเที่ยวระดับโลกได้ เพราะจ.น่านมีทรัพยากร ทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีภูมิปัญญาชาวบ้าน และวัฒนธรรมพื้นบ้านที่เก่าแก่ เป็นจุดขายที่ดี แต่การจัดการอย่างเป็นระบบจะทำให้ทุกอย่างอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งตรงนี้ กมธ.มาดูว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น การเดินทาง การท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่จะเดินท่องเที่ยวในตัวเมืองได้โดยไม่ต้องมีไกด์ รวมถึงการจัดระเบียบเมืองที่มีการเก็บสายไฟ จัดการถนนได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ในเรื่องการศึกษา ที่เราจะทำ USO NET เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เทียบเท่ากับเด็กในเมือง
“คนน่านมีความเข้มแข็งมาก ทุกคนรักจังหวัดตัวเอง สามารถนำน่านโมเดลไปใช้กับจังหวัดอื่นได้ กระแสรักน่าน มีการปรับธุรกิจต่างๆให้เข้ากับอัตลักษณ์ของจังหวัด ร้านค้าต่างๆต้องปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมือง นี่เป็นสิ่งที่เป็นสมาร์ทซิตี้ ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีจะต้องพัฒนาไปพร้อมๆกับอัตลักษณ์ของพวกเขา ทั้งนี้ในส่วนของการแจ้งเตือนภัยพิบัติ จ.น่านมีระบบเรดาร์ ทำให้มีความแม่นยำ ต่างจากจังหวัดอื่นๆ เช่น ชุมพร ที่ใช้วิทยุชุมชนร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเรดาร์สามารถเตือนภัยได้อย่างแม่นยำลดความเสียหายจำนวนมาก” น.ส.กัลยา กล่าว
น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า ในวันที่ 5 ก.ย. กมธ.ดีอีเอส จะลงพื้นที่ อ.เวียงสา เพื่อมอบถุงยังชีพ 200 ชุด ที่ได้รับมอบจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)