สัมฤทธิ์ ตั้งกระทู้ถามก.เกษตร ช่วยเหลือเกษตรกรหลังยกเลิกพาราควอต ฝากรัฐบาลช่วยดูแล “ประภัตร” ยันเข้าใจเกษตรกรแต่ต้องทำตามกฎหมาย เผยให้กรมวิชาการเกษตรเร่งศึกษาผลกระทบ
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม วาระการตั้งกระทู้ถามทั่วไป โดยนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ ตั้งกระทู้ถาม รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตอบกระทู้แทน
โดยนายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้ สารเคมีทางการเกษตร 2 ชนิด คือ พาราควอตและคลอร์ไฟรีฟอส โดยการเปลี่ยนจากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 ห้ามนำเข้า ส่งออกและครอบครอง การยกเลิกสารเคมีไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ผ่านมาประเทศของเรามีการยกเลิกกว่า 100 ชนิด ในส่วนคลอร์ไฟรีฟอส ทำไมยกเลิกแล้วเกษตรกรไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการต่อต้านแต่อย่างใด เพราะเรายกเลิกแล้วไม่กระทบเกษตรกร เขายังสามารถไปหาซื้อสารอื่นมาใช้ทดแทนได้ ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายและราคาใกล้เคียงกัน แต่สารพาราควอตนั้น เกษตรกรต่อต้าน บางกลุ่มไปฟ้องศาลปกครองกลาง มีการร้องเรียน เพราะวันนี้เรายกเลิกพาราควอต ที่เป็นยาฆ่าหญ้าที่เกษตรกรใช้มากที่สุดในประเทศ และมีราคาต่ำที่สุดในประเทศ ทำให้พวกเขาทำการเกษตรไม่ได้
“วันนี้การยกเลิกพาราควอต โดยกล่าวอ้างถึงความปลอดภัยของเกษตรกร และผู้บริโภค และมี 55 ประเทศที่ยกเลิก แต่เราไม่เคยพูดว่ามีอีก 78 ประเทศยังใช้อยู่และอีกหลายประเทศมีการจำกัดการใช้ เช่น บราซิล สหรัฐ อาเจนตินา และญี่ปุ่น ที่แย่กว่านั้นคือ วันนี้เราไม่อนุญาตให้เกษตรกรใช้พาราควอต แต่เราอนุญาตให้บริษัทเอกชนสามารถนำพืชผลทางการเกษตรจากประเทศที่เขาใช้พาราควอตอยู่นำเข้ามาได้ เรื่องนี้ค่อนข้างจะใจร้ายกับเกษตรกร แต่ตนเข้าใจเราต้องทำตามกฎหมาย ตนขอสอบถามท่านรัฐมนตรีว่า วันนี้เรายกเลิกพาราควอตแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนโดยตรง กรมวิชาการเกษตรต้องหาสารทดแทนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ตนอยากทราบว่า บัดนี้กระทรวงได้หาสารทดแทน มีความคืบหน้าเพียงใด และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง”
นายประภัตร ชี้แจงว่า ขอทำความเข้าใจว่า พาราควอตคือยาฆ่าหญ้า สิ่งที่เริ่มต้นมาจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชฯ กระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 60 ถึงสารอันตรายที่ห้ามใช้ พาราควอต หากถูกร่างกายและสะสมมากๆจะอันตรายถึงชีวิต กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วง เราเห็นว่าคนที่รับจ้างฉีดยาฆ่าหญ้า นานๆเข้าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ตนเข้าใจว่าสารตัวอื่นราคาสูง แต่เราต้องเข้าใจถึงภัยอันตรายต่อร่างกาย แต่เมื่อกฎหมายออกมาอย่างนี้เราก็ต้องปฏิบัติตาม ตอนนี้มีหลายสารที่เราสามารถใช้ทดแทน แต่ตนก็เห็นใจเกษตรกรเพราะมีราคาที่สูงกว่า นอกจากนี้ในงบเงินกู้ เราได้ให้กรมส่งเสริมฯขอเครื่องมือไปดายหญ้า ตัดหญ้า แม้กระทั่งรถไถ เป็นการบรรเทาหรือแก้ไขให้เกษตรกรแทนการใช้ยาฆ่าหญ้า เราเชื่อว่าราคาจะถูกกว่า แต่อาจจะไม่เร็ว แต่เป็นทางออกที่จะรักษาสุขภาพให้ประชาชน
นายสัมฤทธิ์ ถามอีกว่า การยกเลิกสารพาราควอต เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่จากข้อมูลมีการยกเลิกสารเคมีอื่นไปแล้วและมีการมายกเลิก พาราควอต จนกระทบต่อต้นทุนการผลิตจนไม่สามารถทำการเกษตรได้ อย่าง มาเลเซีย มีการยกเลิกในปี 2548 และกลับมาให้ใช้อีกครั้ง 2549 เพราะต้นทุนราคาสูงและไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ รัฐบาลไม่สามารถหาสารทดแทนได้ ตนขอถามว่า หากประเทศเราไม่มีสารพาราควอตแล้ว เกษตรกรไม่สามารถทำการเกษตรได้เพราะต้นทุนสูงขึ้น รัฐบาลจะมีการกลับไปทบทวนการจำกัดการใช้หรือไม่ และจะมีการทบทวนการกลับมาใช้พาราควอตอีกหรือไม่ หากไม่มีจะมีแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร
นายประภัตร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าหากวันหนึ่งเรายกเลิกไปแล้วอาจจะเกิดผลกระทบกับต้นทุนการเกษตร ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปศึกษา อย่าง มาเลเซียที่กลับมาใช้ ถ้าจำเป็นเราอาจจะกำหนดว่าพืชชนิดใดจะกลับมาใช้ได้บ้างซึ่งเราให้กรมวิชาการเกษตรไปศึกษาอยู่ และต้องอบรมการใช้สารเคมีให้เกษตรกรเข้าใจ และแม้ผู้ขายก็ต้องอบรม แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น เราต้องทำตามมาตรการ รัฐบาลก็เข้าใจแต่เราต้องรักษาชีวิตคนไว้ด้วย
นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่าอีกว่า ตนขออนุญาตฝากไปยังท่านรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการยกเลิกพาราควอต มีผลกระทบต่อเกษตรกรโดยเฉพาะชาวไร่อ้อยและมันสำปะหลัง ซึ่งจากโครงสร้างของพืชไม่สามารถใช้สารอื่นมาทดแทนได้ เราส่งออกอ้อยเป็นอันดับสองของโลก และส่งออกมันสำปะหลังเป็นอันดับหนึ่งของโลก ตนขอฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยเกษตรกรเหล่านี้ด้วย